PostTrick.com

Ideas to Live a Better Life! แหล่งรวมความคิดเพื่อสิ่งแวดล้อม เพื่อสังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อเมืองไทยไร้มลพิษ

“กรมทรัพยากรน้ำ” ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดงาน “วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก” 2567 ณ จ.สกลนคร

2 กุมภาพันธ์ 2567กรมทรัพยากรน้ำ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3 ร่วมภาคีเครือข่าย จ.สกลนคร จัดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก 2567 โดยมี นายชานน วาสิกศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายวิเชียร ศิริสุวรรณคูหา ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3 และนายพิพัฒน์ เรืองงาม ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมและประสานมวลชน กองอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ และผู้แทนจากทุกภาคส่วนใน จ.สกลนคร เข้าร่วมงาน ภายใต้หัวข้อ “พื้นที่ชุ่มน้ำและความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์” ณ สวนสมเด็จพระเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ (สวนลูก) อำเภอเมือง จังหวัดสกลนครวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ เพื่อสร้างจิตสำนึก เผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาท หน้าที่ คุณค่า และความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาร จังหวัดสกลนคร นำเสนอผลการดําเนินงานกิจกรรมการอนุรักษ์ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหารที่ผ่านมาโดยชุมชน ภาคประชาสังคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำเสนอ และยกระดับคุณค่าความสำคัญของพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหารเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศ หรือ แรมซาร์ไซต์ และเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการบริหาร จัดการ อนุรักษ์ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำหนองหาร อย่างชาญฉลาด และยั่งยืน งบประมาณการจัดงานครั้งนี้ ได้รับงบประมาณสนับสนุนจาก ศูนย์แรมซาร์ภูมิภาคเอเชียตะวันออก…

Continue Reading

พบกระดูกไดโนเสาร์และสัตว์ร่วมยุค อายุกว่า 100 ล้านปี ที่ขอนแก่น

พิพิธภัณฑ์สิรินธร สำนักงานทรัพยากรธรณี เขต 2 กรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งข้อมูลการพบสิ่งอันมีเหตุควรเชื่อได้ว่าเป็นซากดึกดำบรรพ์จาก นายเชาวลิต บุญชาย ประชาชนในพื้นที่ จึงได้ลงพื้นที่ทำการสำรวจตรวจสอบ ณ บริเวณฝายน้ำล้น ของลำน้ำพอง บ้านโนนพยอม ตำบลม่วงหวาน อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา.จากการตรวจสอบ พบซากดึกดำบรรพ์ชิ้นส่วนของกระดูกสันหลังของไดโนเสาร์กินพืชซอโรพอด เศษกระดูกซี่โครงไม่สามารถระบุชนิด และฟันของไดโนเสาร์กินปลาสไปโนซอริด และรอยชอนไช (burrow) อยู่ในชั้นหินทรายเนื้อละเอียดสีน้ำตาลแดง ของหมวดหินโคกกรวด (Khok Kruat Formation) กลุ่มหินโคราชอายุประมาณ 110-100 ล้านปีมาแล้ว ทั้งนี้ได้ให้นายเชาวลิต บุญชาย ผู้ค้นพบ แจ้งพบซากดึกดำบรรพ์ ต่อนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลม่วงหวาน เจ้าพนักงานท้องถิ่น โดยตำแหน่ง เพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ พ.ศ.2551.เนื่องจากซากดึกดำบรรพ์ที่พบโผล่ให้เห็นภายหลังระดับน้ำลดลง และมีความเสี่ยงในการถูกทำลายเมื่อระดับน้ำสูงขึ้น เจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑ์สิรินธร จึงเก็บตัวอย่างซากดึกดำบรรพ์มาอนุรักษ์เบื้องต้น ณ พิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์ และเทศบาลตำบลม่วงหวานได้นำหินซึ่งมีตัวอย่างกระดูกซี่โครงและรอยชอนไช มาเก็บรักษาและจัดแสดงเพื่อให้ความรู้ ณ ที่ทำการเทศบาลตำบลม่วงหวาน ซึ่งได้รับความร่วมมือในการคุ้มครองและดูแลซาก…

Continue Reading

“พัชรวาท” ผนึกกำลัง กษ. สยบฝุ่น PM 2.5 เตรียมทำฝนหลวงรับมือ สุดสัปดาห์นี้ชาวกรุง หายใจโล่งขึ้น

พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า หลังจากกรมควบคุมมลพิษ(คพ.) รายงานค่าฝุ่น PM 2.5 ให้รับทราบเป็นประจำทุกวัน ซึ่งพบว่าระยะนี้มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ กทม. ปริมณฑล จึงเรียกหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ให้ฝุ่นเบาบางลง ลดผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน โดยทีมนักวิชาการจาก คพ. มีข้อเสนอว่า ปัญหาเรื่องฝุ่นในระยะเร่งด่วนสามารถแก้ปัญหาด้วยการทำฝนหลวง ดังนั้นจึงได้ประสานไปยัง รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพื่อขอให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ทำฝนหลวง ซึ่ง กษ. ตอบรับในทันทีโดยได้สั่งเร่งด่วนไปยังกรมฝนหลวงฯเตรียมลงมือปฏิบัติการ อย่างไรก็ตาม ตนยังได้มอบหมายให้ คพ.ประสานกับกรมฝนหลวงฯ เพื่อปฏิบัติการสยบฝุ่น PM 2.5 ร่วมกัน โดย คพ.ที่มีข้อมูลเรื่องฝุ่นในมือ ต้องชี้เป้าให้กับฝนหลวงฯ ว่าในแต่ละวัน หรือแต่ละสัปดาห์จะมีการเคลื่อนย้ายของฝุ่นไปจังหวัดใดบ้าง เพื่อให้กรมฝนหลวงฯ ประเมินความชื้นและเมฆหรือปัจจัยอื่นที่จะทำให้การทำฝนหลวงได้สำเร็จตามเป้าหมาย โดยการบูรณาการ การทำงานร่วมกันเชื่อว่าจะทำให้ลดปัญหาฝุ่นลงได้ ทั้งนี้ คพ.ได้รายงานให้ทราบว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ ชาวกทม. – ปริมณฑล จะหายใจกันโล่งขึ้น เพราะปริมาณฝุ่นเริ่มลดลงเนื่องจากมีลมเข้ามา แต่สถานการณ์สัปดาห์หน้าที่น่าเป็นห่วงคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานในหลายพื้นที่ ดังนั้นขอให้ประชาชนเฝ้าระวังป้องกันตัว และเรื่องการเผาพื้นที่เกษตรกรรม…

Continue Reading

กรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกับ วสท. และสภาวิศวกร ลงพื้นที่หนองแขนนางน้อย เตรียมเสริมระบบกระจายน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ จ.ปราจีนบุรี

กรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกับ วสท. และสภาวิศวกร ร่วมลงพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองแขนนางน้อย พร้อมระบบกระจายน้ํา ตําบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี 28 ตุลาคม 2566: กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสภาวิศวกร ภายใต้คณะทำงานในการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัย อาคารและสิ่งปลูกสร้างด้านแหล่งน้ำ ร่วมลงพื้นที่โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองแขนนางน้อย พร้อมระบบกระจายน้ํา ตําบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรีจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของอาคารและสิ่งปลูกสร้างด้านแหล่งน้ำเพื่อใช้กำหนดแนวทางในการปรับปรุงและบำรุงรักษาให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวิศวกรรม เพิ่มขีดความสามารถให้วิศวกรรุ่นใหม่ ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป ดร.ประยุทธ์ ไกรปราบ ผู้อำนวยการกองพัฒนาแหล่งน้ำ 1 เปิดเผยว่า “โครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูหนองแขนนางน้อย พร้อมระบบกระจายน้ํา ตําบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2561 มีปริมาณน้ำเก็บกัก 1.2 ล้าน ลบ.ม. มีประชาชนได้รับประโยชน์จำนวนกว่า 225 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรมากกว่า 1,500 ไร่ โดยแนวทางการพัฒนาในอนาคต กรมทรัพยากรน้ำจะเชื่อมโยงหนองแขนนางน้อย หนองแขนนาง และทุ่งรวงทอง…

Continue Reading

ทน. – มธ.’ ร่วมสรุป “กรอบอัตราค่าใช้น้ำ” มุ่งความเป็นธรรม ยืดหยุ่น เกิดประโยชน์ต่อผู้ใช้น้ำทุกภาคส่วน

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566กรมทรัพยากรน้ำ จัดประชุมปัจฉิมนิเทศโครงการศึกษาแนวทางการจัดทำนโยบายการกำหนดโครงสร้างอัตราค่าใช้น้ำสำหรับการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะของผู้ใช้น้ำประเภทที่ 2 และ 3 ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 หมวด 4กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำโดย นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ พร้อมคณะผู้บริหารและคณะที่ปรึกษาจาก ม.ธรรมศาสตร์ จัดประชุมปัจฉิมนิเทศเพื่อรับฟังการนำเสนอผลการศึกษาแนวทางการจัดทำนโยบายกำหนดโครงสร้างอัตราค่าใช้น้ำ สำหรับการใช้ทรัพยากรน้ำสาธารณะของผู้ใช้น้ำประเภทที่สองและสาม ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 หมวด 4โดย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ได้เน้นย้ำว่า “นโยบายการกำหนดอัตราค่าใช้น้ำไม่ควรบั่นทอนการแข่งขันของภาคเอกชน แต่ควรสอดคล้องและมีความยืดหยุ่นกับบริบทของสังคมไทยให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมสูงสุด” และได้ขอบคุณหน่วยงานรัฐ ภาคเอกชน ผู้แทนสถาบันการศึกษา เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ รวมทั้งผู้แทนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน ที่ร่วมกันเสนอความคิดเห็นและแนวทางที่เกี่ยวกับการ กำหนดกรอบความคิดที่เกี่ยวกับอัตราค่าใช้น้ำประเภทที่สองและประเภทที่สาม ซึ่งจะส่งผลต่อรูปแบบการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยในอนาคตนอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการเสวนา เรื่อง “ความท้าทายในการใช้กฎหมาย เรื่อง การอนุญาตใช้น้ำและการเก็บค่าใช้น้ำตามพรบ. ทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561” โดยผู้แทนจากสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมทรัพยากรน้ำ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย การประปาส่วนภูมิภาค และภาคประชาสังคม ได้ให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์เพื่อพัฒนาต่อยอดการศึกษาโครงการฯกรมทรัพยากรน้ำ ได้ดำเนินการว่าจ้างสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศึกษา “โครงการค่าใช้จ่ายในการศึกษาแนวทาง…

Continue Reading

ทส. เสริมเครื่องสูบน้ำ ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย

วันพุธที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2566จากข้อสั่งการของนายกฯ เศรษฐา ให้รองนายกฯ และรัฐมนตรี ลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างใกล้ชิด กำชับเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง และให้ความช่วยเหลือจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายใต้การกำกับของ พลตำรวจเอก พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีฯ ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำเร่งดำเนินการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยกรมพัฒนาแหล่งน้ำ 2 ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำขนาด 42 นิ้ว จำนวน 5 เครื่อง ไปยังสำนักงานทรัพยากรน้ำที่ 3 5 7 และ 9 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในเขตพื้นที่ จังหวัดอุดรธานี นครราชสีมา ราชบุรี และพิษณุโลก ทั้งนี้กรมได้ดำเนินงานการสูบน้ำช่วยเหลือภาวะน้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2566 ถึงปัจจุบัน มีปริมาณการสูบระบายน้ำมากกว่า 5.41 ล้าน ลบ.ม. โดยใช้เครื่องสูบน้ำ 14 เครื่อง รวมถึงมีการแจกจ่ายน้ำสะอาดให้กับประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม การดำเนินงานที่ผ่านมาประชาชนได้รับประโยชน์ 40,588 ครัวเรือน และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา…

Continue Reading

กรมทรัพยากรน้ำ ร่วมกับ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และสภาวิศวกร ลงพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำท่าแซะ จ.สุราษฎร์ธานี

30 กันยายน 2566: กรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสภาวิศวกร ภายใต้คณะทำงานในการตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัย อาคารและสิ่งปลูกสร้างด้านแหล่งน้ำ ร่วมลงพื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำท่าแซะ ต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของอาคารและสิ่งปลูกสร้างด้านแหล่งน้ำเพื่อใช้กำหนดแนวทางในการปรับปรุงและบำรุงรักษาให้มีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพและแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านวิศวกรรม เพิ่มขีดความสามารถให้วิศวกรรุ่นใหม่ ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไป นายธีระชุณ บุญสิทธิ์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่า “อ่างเก็บน้ำท่าแซะ สร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ 2528 ปัจจุบันมีดินตะกอนมาทับถมภายในอ่างทำให้ไม่ได้กักเก็บน้ำได้ตามความจุเดิมและอาคารระบายน้ำล้นเกิดความชำรุดเสียหายโดยผิวคอนกรีตกำแพงและพื้นรางเทถูกน้ำกัดเซาะหลุดร่อนตามสภาพการใช้งาน ส่งผลให้มีน้ำไหลออกตามรอยรั่ว ในช่วงฤดูแล้งจะขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภค บริโภค และการเกษตร ปัจจุบันการเกษตรในพื้นที่โดยรอบอ่างมีการเปลี่ยนแปลงพืชในการเพาะปลูกจากเดิมเป็นพืชเศรษฐกิจเช่นทุเรียน ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมีปริมาณเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวทางการบำรุงรักษาปรับปรุงซ่อมแซมเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของอ่างเก็บน้ำท่าแซะประกอบด้วย การซ่อมสร้างอาคารระบายน้ำล้น การขุดลอกดินตะกอนภายในอ่างเก็บน้ำ การก่อสร้างอาคารบังคับน้ำและท่อส่งน้ำการสร้างฝายกักเก็บน้ำพร้อมขุดลอกคลองท่าแซะ คาดว่าจะมีประชาชนได้รับประโยชน์จำนวนกว่า 1,300 ครัวเรือน คอบคลุมพื้นที่การเกษตรมากกว่า 1000 ไร่” รศ. สิริวัฒน์ ไชยชนะ อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เสริมว่า “การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับฟังปัญหาจากผู้นำชุมชนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่ ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาจาก วสท. สภาวิศวกร และบุคลากรผู้เชี่ยวชาญจากกรมทรัพยากรน้ำ…

Continue Reading

[ข่าวปลอม] รัฐฯ โอนเบี้ยยังชีพเพิ่มเติมแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3 กลุ่ม จำนวน 1,000 – 2,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือน

จากข้อมูลดังกล่าว ทางกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังได้ชี้แจงว่า รัฐบาลไม่มีนโยบายโอนเบี้ยยังชีพเพิ่มเติมแก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3 กลุ่ม จำนวน 1,000 – 2,000 บาท เป็นระยะเวลา 6 เดือนตามที่กล่าวอ้าง อ่านเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3Ny6G84

ข่าวปลอม ! อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว มือเท้าชา ผมร่วงเรื้อรัง คือสัญญาณตับเริ่มล้า เลือดหนืดมากเกินไป

จากกรณีคำแนะนำบ่งชี้ถึงโรคตับว่า อ่อนเพลีย ตาพร่ามัว มือเท้าชา ผมร่วงเรื้อรัง เป็นสัญญาณเตือน ตับเริ่มล้า เลือดหนืด..ติดกันมากเกินไป ทางโรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขได้ชี้แจงถึงประเด็นนี้ว่า เป็นคำแนะนำข้อบ่งชี้ที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากไม่มีเหตุผลที่เป็นไปได้ตามทฤษฎีทางการแพทย์ อ่านเพิ่มเติมที่ https://bit.ly/3VnT6pL AFNC Thailand 3 พ.ค. 66

คพ. เสนอ อปท. ยกระดับสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้อง

นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า ปี 2565 ประเทศไทยมีสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของภาครัฐและเอกชนที่เปิดดำเนินการ จำนวน 2,074 แห่ง เป็นสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ดำเนินการถูกต้องตามหลักวิชาการเพียง 111 แห่ง (ร้อยละ 5) ที่เหลือเป็นสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ดำเนินการไม่ถูกต้อง 1,963 แห่ง (ร้อยละ 95) ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงมาก เนื่องจาก อปท. หลายแห่งมีงบประมาณในการกำจัดขยะมูลฝอยไม่เพียงพอ สถานที่กำจัดขยะมูลฝอยหลายแห่งรองรับขยะมูลฝอยมากเกินกว่าศักยภาพที่จะรองรับได้ การจัดหาสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยแห่งใหม่ดำเนินการได้ยาก จากปัญหาประชาชนในพื้นที่ต่อต้านหรือคัดค้านในการก่อสร้างและดำเนินการ การกำกับและบังคับใช้กฎหมายกับสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยของเอกชนเป็นไปได้ยากและไม่มีการดำเนินการ ตลอดจนการกำกับ อปท. ที่ดำเนินการไม่ถูกต้องเช่นเดียวกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาซ้ำซาก เช่น ไฟไหม้บ่อขยะมูลฝอย มลพิษจากการกำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้อง น้ำเสียจากบ่อขยะมูลฝอย นายพิทยา กล่าวว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว คพ. จึงได้จัดทำข้อเสนอการยกระดับสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยที่ไม่ถูกต้อง เพื่อเป็นกรอบและแนวทางที่จะช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะของประเทศ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2565 – 2570) ในการเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำจัดขยะมูลฝอยที่จะส่งผลให้การจัดการขยะมูลฝอยเป็นไปตามเป้าหมายและตัวชี้วัดที่กำหนดในแผนปฏิบัติการฯ ระดับประเทศ โดยเป้าหมายที่ 1 ของแผนปฏิบัติการ…

Continue Reading

1 2 3